โรคร้ายแรงใกล้ตัวกว่าที่คิด: เตรียมรับมือกับปัญหาสุขภาพด้วยแผนการเงิน
โรคร้ายแรงใกล้ตัวกว่าที่คิด: เตรียมรับมือกับปัญหาสุขภาพด้วยแผนการเงิน
โรคร้ายแรงอย่าง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง ใกล้ตัวกว่าที่คิด และสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่ผลกระทบต่อสุขภาพ แต่คือค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ตามมา หากไม่มีแผนการเงินรองรับ อาจกระทบเงินเก็บที่เก็บมา บทความนี้จะชวนคุณทำความเข้าใจความเสี่ยง และวิธีเตรียมตัวด้วยการวางแผนทางการเงินให้พร้อมรับมืออย่างมั่นใจ
โรคร้ายแรงคืออะไร และทำไมถึงน่ากังวล
โรคร้ายแรง (Critical Illness) คือ คือ โรคที่ที่มีความซับซ้อนต้องใช้เทคโนโลยี หรือเทคนิคทางการแพทย์เฉพาะทางในการรักษาการเจ็บป่วย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำงานได้ ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะลุกลามและก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ซึ่งโรคร้ายแรง ในแต่ละกรมธรรม์ก็จะมีคำนิยามแตกต่างกัน และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวายเรื้อรัง หรือโรคตับแข็ง สิ่งที่ทำให้โรคเหล่านี้น่ากลัวไม่ใช่เพียงแค่ความเจ็บป่วยทางร่างกาย แต่ยังรวมถึงผลกระทบต่อจิตใจ ครอบครัว และการเงินในระยะยาว
เมื่อใครก็ตามถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง ชีวิตมักเปลี่ยนไปทันที ผู้ป่วยหลายคนจำเป็นต้องหยุดทำงาน หรือไม่สามารถทำงานได้เต็มที่เหมือนเดิม รายได้จึงลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสุขภาพ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจทำให้ครอบครัวต้องเผชิญภาระทางการเงินอย่างหนัก
สิ่งที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือโรคร้ายแรงมักเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และไม่เลือกอายุหรืออาชีพ การใช้ชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารที่ไม่สมดุล รวมถึงขาดการออกกำลังกาย ล้วนเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การเตรียมแผนรับมือไว้ตั้งแต่วันนี้ คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องทั้งสุขภาพและการเงินในอนาคตของคุณ
สถิติและความเสี่ยงของโรคร้ายแรงในคนไทย
โรคร้ายแรงกำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพใหญ่ของคนไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศติดต่อกันหลายปี
ข้อมูลจาก สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ระบุว่า คนไทยป่วยเป็นมะเร็งรายใหม่กว่า 140,000 คนต่อปี และเสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 83,000 คนต่อปีขณะที่โรคหัวใจและหลอดเลือดก็ไม่น้อยหน้า โดยในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตสูงถึง ประมาณ 70,000 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 คน
สิ่งที่น่ากังวลคือ โรคร้ายแรงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่เริ่มพบในกลุ่มวัยทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุหลักมาจากวิถีชีวิตที่เสี่ยง เช่น การนั่งทำงานนาน ๆ ความเครียดสะสม การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานอาหารไม่สมดุล ทำให้ความเสี่ยงเกิดโรคร้ายแรงอยู่ใกล้ตัวทุกคน
ค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ตามมาพร้อมโรคร้ายแรง
ค่ารักษาพยาบาลของโรคร้ายแรงไม่ใช่เรื่องเล็ก ตัวอย่างเช่น การรักษามะเร็งด้วยการผ่าตัดและคีโมอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึงหลักแสนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและวิธีการรักษา ขณะที่โรคหัวใจหรือเส้นเลือดสมอง ก็มีค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดหรือฟื้นฟูไม่น้อยกว่าหลักแสนบาท
นอกจากค่ารักษาแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ค่าเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เมื่อรวมกับการที่ผู้ป่วยไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ทำให้ภาระทางการเงินยิ่งหนักขึ้นไปอีก
ทำไมต้องมีแผนการเงินรับมือโรคร้ายแรง
ค่าใช้จ่ายรักษาสูงมาก โรคร้ายแรง เช่น มะเร็งหรือโรคหัวใจ มักมีค่าใช้จ่ายหลักแสนถึงหลักล้านบาท หากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าอาจทำให้เงินเก็บหมดไปอย่างรวดเร็ว
รายได้ลดลงหรือหายไปชั่วคราว ผู้ป่วยจำนวนมากต้องหยุดทำงานเพื่อรักษาตัว ส่งผลให้รายได้ลดลงหรือหายไป ขณะที่ค่าใช้จ่ายยังคงอยู่
ภาระทางการเงินของครอบครัว หากไม่มีเงินสำรองหรือความคุ้มครองทางการเงินที่เพียงพอ ครอบครัวอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายแทน และอาจกระทบกับคุณภาพชีวิตของคนในบ้าน
ลดความกังวลใจ การมีแผนการเงินรองรับช่วยให้ผู้ป่วยโฟกัสกับการรักษาได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าค่ารักษาจะกระทบต่อชีวิตประจำวัน
เลือกการรักษาที่ดีได้ หากมีเงินทุนหรือความคุ้มครองเพียงพอ จะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้
รักษาความมั่นคงทางการเงินระยะยาว การมีประกันหรือแผนการเงินที่ดี จะช่วยป้องกันไม่ให้เป้าหมายชีวิต เช่น การเก็บเงินเพื่อการศึกษาลูก หรือเงินเกษียณ ต้องสะดุด
ทางเลือกการรับมือด้านการเงิน มีอะไรบ้าง ?
การเตรียมรับมือโรคร้ายแรงทางการเงิน มีหลายวิธีที่สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ แต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้
เงินออมและการลงทุน
การมีเงินออมถือเป็นพื้นฐานสำคัญ เพราะสามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม หากต้องใช้เพื่อค่ารักษาโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูง อาจทำให้เงินเก็บหมดลงอย่างรวดเร็ว และกระทบกับเป้าหมายการเงินอื่น ๆ เช่น การซื้อบ้าน การศึกษาของลูก หรือเงินเกษียณ
ข้อดี: ใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอขั้นตอนอนุมัติ
ข้อจำกัด: เงินอาจไม่เพียงพอกับค่ารักษาหลักแสน-หลักล้าน และลดทอนเงินเก็บในอนาคต
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย + คุ้มครองโรคร้ายแรง
ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมความมั่นคงได้ดีที่สุด เพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่าฟื้นฟู และยังมอบเงินชดเชยเมื่อพบโรคร้ายแรง
ข้อดี: ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน ให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลและเงินก้อนเมื่อวินิจฉัยโรคร้ายแรง
ข้อจำกัด: ต้องเริ่มวางแผนและซื้อในช่วงที่สุขภาพยังแข็งแรง เพื่อให้ได้เบี้ยที่เหมาะสมและคุ้มครองทันเวลา
ดังนั้น การผสมผสานทั้ง เงินออม + การลงทุน + ทำประกันสุขภาพ คือทางเลือกที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถรับมือกับโรคร้ายแรงได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
จุดเด่นของประกันสุขภาพเหมาจ่าย คุ้มครองโรคร้ายแรง
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่คุ้มครองโรคร้ายแรง นับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เอาประกันและครอบครัว จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ประกันประเภทนี้น่าสนใจ ได้แก่
คุ้มครองครบวงจร ดูแลตั้งแต่ค่าห้อง ค่ายา ค่าผ่าตัด จนถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่มักมาพร้อมโรคร้ายแรง
ลดภาระครอบครัว การมีประกันช่วยให้คนใกล้ชิดไม่ต้องกังวลว่าจะต้องนำเงินเก็บหรือทรัพย์สินมาจ่ายค่ารักษา ทำให้ทุกคนสบายใจขึ้น
เข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้ทันที ผู้ป่วยสามารถเลือกโรงพยาบาลหรือการรักษาที่มีคุณภาพสูงสุดได้ โดยไม่ต้องชะลอเพราะเหตุผลด้านค่าใช้จ่าย
สร้างความมั่นคงระยะยาว เมื่อค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรงได้รับการดูแลแล้ว แผนการเงินด้านอื่น ๆ เช่น เงินออมเพื่อการศึกษาลูกหรือเงินเกษียณ ก็จะไม่สะดุด
ดังนั้น ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงจึงไม่ใช่แค่ “ตัวเลือก” แต่เป็น เกราะป้องกันทางการเงิน ที่ทุกคนควรพิจารณา เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ใครควรเริ่มวางแผนประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่วันนี้
จริง ๆ แล้ว “ทุกคน” ควรมีการวางแผนเพื่อรับมือโรคร้ายแรง แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรให้ความสำคัญและเริ่มต้นเร็วเป็นพิเศษ เพราะยิ่งวางแผนเร็วเท่าไร ก็ยิ่งได้เปรียบทั้งเรื่องความคุ้มครองและเบี้ยประกันที่ถูกกว่า
วัยทำงานอายุ 25-45 ปี เป็นกลุ่มที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูง ทั้งการผ่อนบ้าน รถ ครอบครัว และการวางแผนอนาคต หากเจ็บป่วยกะทันหันโดยไม่มีแผนรองรับ อาจทำให้การเงินสะดุดทันที
ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเสี่ยงโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน โรคเหล่านี้มีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรม ยิ่งควรมีการคุ้มครองที่ครอบคลุมตั้งแต่เนิ่น ๆ
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ/ฟรีแลนซ์ เนื่องจากไม่มีสวัสดิการหรือประกันกลุ่มจากบริษัทเหมือนพนักงานประจำ การมีประกันส่วนตัวคือเกราะป้องกันทางการเงินที่จำเป็นมาก
คนที่ยังสุขภาพแข็งแรง หลายคนคิดว่าควรรอให้สุขภาพมีปัญหาก่อน แต่ความจริงแล้วหากซื้อประกันตอนสุขภาพดี จะได้เบี้ยที่ถูกกว่า และมีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองครบถ้วน
หมดกังวลค่ารักษาโรคร้ายแรง ด้วยประกันสุขภาพเหมาจ่าย จาก อลิอันซ์ อยุธยา
ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง “ประกันสุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ (HSMHPDC)” จาก อลิอันซ์ อยุธยา คือทางเลือกที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ
จุดเด่น & สิทธิประโยชน์สำคัญ
เบิ้ลวงเงินผลประโยชน์เป็น 2 เท่า จาก 30 ล้านบาท เป็น 60 ล้านบา ต่อรอบปีกรมธรรม์ เมื่อวินิจฉัยและยืนยันว่าเป็น 1 ใน 10 โรคร้ายแรงตามที่กำหนดเป็นครั้งแรก
เหมาจ่ายตามจริง เช่น ค่า Lab X-Ray ผ่าตัด ล้างไต เคมีบำบัด รักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า อุบัติเหตุฉุกเฉินใน 24 ชม. ค่ารักษาใน ICU
ดูแลต่อเนื่องหลังออกจาก รพ. ทั้งค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด หมอนัดติดตามอาการ
มีวงเงินค่าฉีดวัคซีน ค่าตรวจสุขภาพประจำปี แผนสูงสุด 5,500 บาท/รอบปีกรมธรรม์
เบี้ยประกันสำหรับแผนนี้สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ เบี้ยประกันสุขภาพสูงสุด 25,000 บาทต่อปี รวมกับเบี้ยประกันชีวิต สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
อย่าปล่อยให้โรคร้ายแรงมาทำให้ชีวิตและการเงินสะดุด เริ่มต้นวางแผนวันนี้ด้วย ประกันสุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ (HSMHPDC) จาก อลิอันซ์ อยุธยา คุ้มครองครบทั้งค่ารักษาพยาบาลและโรคร้ายแรงในแผนเดียว พร้อมสิทธิประโยชน์มากมายที่จะช่วยให้คุณและครอบครัวอุ่นใจในทุกสถานการณ์ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย คุ้มครองโรคร้าย สามารถอ่านรายละเอียดกรมธรรม์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.allianz.co.th หรือสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โทร. 1373 และศูนย์บริการลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย โทร. 1292 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามเรื่องราวดีๆ จาก อลิอันซ์ อยุธยา ได้ที่
เว็บไซต์: www.allianz.co.th
Facebook: Allianz Ayudhya
Twitter: Allianz Ayudhya
Youtube: อลิอันซ์ อยุธยา Allianz Ayudhya
Tiktok: allianz_ayudhya
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.hfocus.org/content/2024/02/29679
https://www.hfocus.org/content/2023/09/28517
https://www.nci.go.th/th/New_web2024/officer/download/nccp/NCCP_67_75.pdf
Comments
Post a Comment