5 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี
ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี เป็นหนึ่งในเครื่องมือการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนทางการเงิน และการลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกซื้อประกันชีวิตไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองทางการเงินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อประกันชีวิตเพื่อวัตถุประสงค์นี้ มีหลายปัจจัยที่คุณควรพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกแผนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการและเป้าหมายของคุณ
ประกันชีวิตคืออะไร ให้ความคุ้มครองด้านไหนบ้าง
ประกันชีวิต คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ด้านการเงินที่ผู้ซื้อประกันจะต้องชำระเงินค่าเบี้ยประกันแบบรายปีหรือรายเดือนให้กับบริษัทประกัน ซึ่งก็มีความคุ้มครองให้กับผู้เอาประกันอยู่ด้วย ซึ่งประกันชีวิตนั้นจะคุ้มครองกรณีที่มีความสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือการเสียชีวิตเกิดขึ้น โดยทางบริษัทจะจ่ายค่าประกันชีวิตให้แก่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
นอกจากนี้แล้วหากเป็นประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ทางบริษัทจะต้องทำการจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เอาประกันภัยเมื่อครบสัญญา โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 20-30 ปี ตามเงื่อนไข และข้อกำหนด ทำให้ประโยชน์ของการมีประกันชีวิตนั้นไม่เพียงแค่ลดหย่อนภาษีได้เท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์แก่คนข้างหลังกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน และยังเป็นการออมเงินไว้เพื่อใช้ในวัยเกษียณได้อีกกรณีหนึ่งด้วย
5 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ ประกันชีวิต เพื่อลดหย่อนภาษี
การทำประกันชีวิตสำหรับบางคนอาจเพื่อใช้สำหรับลดหย่อนภาษีโดยเฉพาะ ซึ่งก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก่อนที่จะไปทำประกัน ลองมาเช็ก 5 เรื่องต้องรู้ต่อไปนี้กันก่อน
ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่
การลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันชีวิตขึ้นอยู่กับกฎหมายภาษีของแต่ละประเทศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายภาษีในแต่ละปี ในประเทศไทย ตามข้อกำหนดของการลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากร ผู้เอาประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้ดังนี้:
ประกันชีวิตแบบทั่วไป: สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง
ประกันชีวิตของคู่สมรส: ที่ไม่มีรายได้สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท
ประกันชีวิตควบลงทุน: ค่าเบี้ยประกันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ค่าการประกันภัย, ค่าใช้จ่ายหลักอื่น ๆ ของกรมธรรม์, ส่วนของการลงทุน โดยค่าเบี้ยประกันในส่วนที่ 1 และ 2 เมื่อนำมารวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไป สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ส่วนที่นำไปลงทุนไม่สามารถนำมารวมเพื่อลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตแบบบำนาญ: สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และถ้าเราทำประกันแบบบำนาญร่วมกับประกันชีวิตทั่วไป จะสามารถแบ่งเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปให้ครบสิทธิ์ 100,000 บาทได้ กล่าวคือ ประกันชีวิตแบบบำนาญลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท หากไม่ได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนสำหรับประกันชีวิตทั่วไปนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหากมีการเลิกสัญญา หรือเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี จะไม่สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ และต้องจ่ายคืนภาษีย้อนหลังที่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนไป พร้อมดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีทำยังไง
สำหรับผู้ที่มีการทำประกันชีวิตไว้แล้ว และต้องการที่จะใช้ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปเพื่อลดหย่อนภาษี ก็สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการแจ้งลดหย่อนภาษีกับทางบริษัทประกันว่าต้องการที่จะใช้ในการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ทางบริษัทประกันนำส่งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเบี้ยประกันให้กับทางสรรพากรทราบ ซึ่งในการยื่นภาษี ผู้ที่ทำประกันสามารถกรอกรายละเอียดของข้อมูลประกันที่มีเพื่อใช้ลดหย่อนได้ทันที
เงื่อนไขลดหย่อนภาษีของประกันชีวิต
ในส่วนของการลดหย่อนภาษีก็มีเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขด้วย โดยหากเป็นประกันชีวิตทั่วไปจะต้องมีอายุกรมธรรม์ไม่น้อยกว่า 10 ปีขึ้นไป จัดทำกับบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และได้รับเงินคืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันรายปี หรือหากเป็นประกันสุขภาพจะลดหย่อนได้ตามเบี้ยที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้ว จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท ถึงจะใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่าย
ประกันชีวิตแบบไหน ลดหย่อนภาษีได้
อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า การทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตรูปแบบใดก็ใช้ลดหย่อนได้ เพียงแต่ต้องตรวจสอบให้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น
ขั้นตอนการลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิต
การยื่นแบบแสดงรายการภาษีและการลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิตแบบออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว ขั้นตอนการทำงานมักจะเป็นดังนี้:
เข้าสู่ระบบเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของหน่วยงานภาษี: คุณสามารถเข้าสู่ระบบผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร (www.rd.go.th)
เลือกฟอร์มแบบแสดงรายการภาษี: เลือกฟอร์มที่เหมาะสมกับประเภทของผู้เสียภาษี ตัวอย่างเช่น ฟอร์ม ภ.ง.ด.90 สำหรับบุคคลธรรมดา
กรอกข้อมูลส่วนตัวและรายได้: ให้ข้อมูลส่วนตัวและรายได้ตามที่จำเป็นในฟอร์ม
ระบุเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระ: ในส่วนของการลดหย่อนภาษี ให้ระบุจำนวนเงินที่ชำระเป็นเบี้ยประกันชีวิตในช่องที่กำหนด
แนบหลักฐานการชำระเบี้ยประกัน (ถ้าจำเป็น): บางระบบอาจอนุญาตให้คุณอัปโหลดหลักฐานการชำระเบี้ยประกันเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์
ตรวจสอบข้อมูลและส่งฟอร์ม: หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนที่จะส่งฟอร์มไปยังหน่วยงานภาษี
รอการอนุมัติ: หลังจากยื่นฟอร์มแล้ว คุณอาจต้องรอการตรวจสอบและอนุมัติจากหน่วยงานภาษี คุณสามารถตรวจสอบสถานะการยื่นภาษีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ใช้ยื่นภาษี
หากทำประกันชีวิตกับ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีออนไลน์ได้เลย
ข้อดีของการมีประกันชีวิตไว้ลดหย่อนภาษี
เรียกได้ว่าประกันชีวิตนั้นมีข้อดีสำหรับคนมีรายได้ในเกณฑ์ที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นอกจากเรื่องประกันชีวิต ลดหย่อยภาษี ได้แล้ว ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ยังเปรียบเสมือนการเก็บเงินออมเอาไว้สำหรับอนาคตเมื่อยามฉุกเฉิน หรือเมื่อหมดวาระการทำงานก็ยังมีเงินก้อนไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นได้อีก ที่สำคัญที่สุด การมีประกันชีวิตเอาไว้ ยังเป็นการลสร้างความคุ้มครองต่อคนในครอบครัวด้วย เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ได้ทิ้งภาระเอาไว้ให้กับคนข้างหลังนับว่าการมี ประกันชีวิต เอาไว้สักเล่มก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อชีวิตไม่น้อยเลยทีเดียว สามารถศึกษารายละเอียดประกันชีวิตเพิ่มเติมได้ที่ www.allianz.co.th หรือ โทร 1373 ศูนย์บริการลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และโทร 1292 ศูนย์บริการลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามเรื่องราวดีๆ จาก อลิอันซ์ อยุธยา ได้ที่
เว็บไซต์: www.allianz.co.th
Facebook: Allianz Ayudhya
Twitter: Allianz Ayudhya
Youtube: อลิอันซ์ อยุธยา Allianz Ayudhya
Tiktok: allianz_ayudhya
Comments
Post a Comment